1.มหาบุรุษ..คือผู้ที่เสียสละตนเอง มีระบบคิดที่สูงส่ง มหาบุรุษจะทำภารกิจเพื่อเพื่อนมนุษย์เป็นภารกิจที่ 1
(มหาบุรุษที่สร้างมายาภาพจะไม่ยอมเสียสละตนเอง จะสร้างอำนาจและความร่ำรวยเพื่อตัวเองและครอบครัวเป็นภารกิจที่ 1)
2.มหาบุรุษ..คือผู้มีอุดมการณ์ที่ชัดเจน เพื่อการปลดปล่อยมนุษยชาติ (มหาบุรุษจอมลวงโลก มือจะถือดาบ แต่ปากคาบคัมภีร์ )
3.มหาบุรุษ..จะต้องเป็นนักอภิวัฒน์สังคม หรือปฏิวัติสังคม ด้วยการเอาชีวิตทั้งหมด ไปผลักดันสังคมทั้งระบบจนสำเร็จ
หรือวางรากฐานไว้ให้ทำต่อจนสำเร็จ
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะวางรากฐานและผลักดันสังคมไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อสายตระกูล สายโลหิตตนเอง)
4.มหาบุรุษ..คือผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด เป็นการยกระดับสังคมให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
(มหาบุรุษจอมลวงโลก จะเสนอวิธีคิดแบบโบราณ เพื่อผลักดันให้สังคมถอยหลัง ในขณะเดียวกันเขาก็จะใช้วิธีคิดแทนประชาชน
โดยตัวเขาเองและบรรดาเครือข่ายของเขา เช่นเหล่าอำมาตย์,นักวิชาการ,พรรคการเมืองที่เขาเลี้ยงไว้ออกมาเสนอแนวคิด
และนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเดินตามไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ เพราะถ้าประชาชนฉลาดก้าวหน้าและคิดเอง ได้เมื่อไร
ประชาชนก็จะรู้ว่าเงินภาษีอากรที่ควรจะนำมาพัฒนาประเทศชาติ มันกลับใหลไปรวมอยู่ที่ครอบครัวของใคร)
5.มหาบุรุษ..คือผู้ที่เป็นต้นแบบของปรัชญาที่ก้าวหน้ากว่าแบบเก่า และมีวิธีการปฏิบัติการให้สังคมอื่นนำไปศึกษา
(มหาบุรุษจอมลวงโลกจะใช้ปรัชญาที่เป็นนามธรรมโบราณในลัทธิพราห์มคือไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในทางวิทยาศาสตร์ มาครอบงำวิธีคิดของประชาชนให้งมงาย)
6.มหาบุรุษ..หรือบิดาของชาติหนึ่งชาติใดนั้นคือผู้ที่ได้รับความรักและเทิดทูนจากประชาชนอย่างแท้จริง ตรงไปตรงมา
( มหาบุรุษจอมลวงโลกจะพยายามยัดเยียด , บังคับ โหมกระหน่ำโฆษณาชวนเชื่อตนเอง ต่อสื่อสาธารณะ
ให้เกินมนุษย์ธรรมดาให้เป็นเรื่องบุญญาธิการ สร้างมายาภาพ ขึ้น ในสมองของประชาชน เป็นมายากลทางการเมือง
สร้างภาพลวงตา หลอกลวงเพื่อการสืบสายมรดกอำนาจ แก่สายโลหิตของตน)
7.มหาบุรุษ..คือผู้สร้างคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน (มหาบุรุษจอมลวงโลกจะทวงบุญคุณแผ่นดิน)
8.มหาบุรุษ..คือผู้ที่มีจิตใจที่เป็นสากล และได้รับการยกย่องจากสังคมโลก
(มหาบุรุษจอมปลอมจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมโลก เขามีจิตใจที่ดูกถูกเหยียดหยามประชาชน
ว่าเป็นเพียงธุลีดิน อยู่ใต้เท้าพวกเขาไปชั่วลูกชั่วหลาน)
9.นับตั้งแต่มีโลกใบนี้มา ไม่เคยมีมหาบุรุษคนใดในโลกที่ห้ามมิให้ผู้คนวิจารณ์ตนเอง แม้แต่ศาสดาต่าง ๆ
ในทุกๆ ศาสนาของโลกก็ไม่มีบทบัญญัติข้อบังคับหรือเอาผิดใด ๆ ต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์