ข้อเขียนสั้นๆ นี้ เป็นการบันทึกเรื่องราวส่วนตัวว่าผ่านเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง แล้วนับแต่นั้น วิธีการมองโลกเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม
อายุ 11 เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เกี่ยวกับเรื่องเพศ นับแต่นั้นก็เลิกอายที่จะบอกว่า ชอบเพศตรงข้าม
อายุ 13 ตัดทีวีออกจากชีวิตประจำวัน นับแต่นั้นก็มีเวลาอยู่กับตัวเอง เกมคอมพิวเตอร์ กับหนังสือ
อายุ 15 ได้ยินเสียงประสานทางดนตรีอันแสนไพเราะที่สุด ที่เกิดจากสองมือของตัวเอง
อายุ 17 ได้เห็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน ทำงานเพลง Orchestration คนเดียวบนคอมพิวเตอร์ และเรื่องนี้เข้ามาอยู่ในความนึกคิดตลอด 7-8 ปีหลังจากนั้น
อายุ 19 ได้รู้จักโลกของคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
อายุ 21 ได้ยินเสียงเพลงคุณภาพสูงจากระบบเสียงที่ดีบนสภาพแวดล้อมที่ดีในห้องบันทึกเสียง ทำให้โลกของการฟังเสียงดนตรีเปลี่ยนไปนับแต่นั้น
อายุ 23 ค้นพบอิสระภาพจากการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนต่อไหน ปลดพันธนาการจากความคิดที่จะต้องเสียเวลาเดินทางหลายชั่วโมงในแต่ละวัน
อายุ 25 ขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง โลกกว้างขึ้นกว่าเดิม ปลดพันธนาการความคิดเกี่ยวกับสถานที่ออกไปโดยสิ้นเชิง
อายุ 27 ใช้ Smart Phone ‘iPhone’ เป็นครั้งแรก เปลี่ยนรูปแบบชีวิตใหม่ทั้งหมด
นับจากวัยรุ่น ถึงอายุประมาณ 27 ได้ซึมซับ แนวคิดทางการเมืองการปกครอง และเศรษฐศาสตร์ จากเกมคอมพิวเตอร์ จากหนังสือ จนมาตกผลึกได้ว่า เหตุใด ประชาธิปไตยบ้านเราจึงหยุดอยู่กับที่ มีการพัฒนาจนถึงระดับหนึ่ง แล้ว “โดนล้างไพ่” โดยตลอด
เหตุใด คนดี คนเก่ง อย่าง ดร.ปรีดี ดร.ป๋วย ไม่สามารถทำงานอย่างสงบสุขที่นี่ได้
เหตุใด ทหารจึงมีบทบาทมากมายบนการเมืองไทย
และนับแต่นั้นมาวิธีการมองโลกของผม ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม…อีกต่อไป
// ถึงตรงนี้แล้ว อยากรู้จักประสบการณ์ชีวิต ที่เปลี่ยนโลกใบใหม่ของคุณผู้อ่าน ที่ไม่มีวันเหมือนเดิมด้วยครับ 😀
ชอบ อันนี้จัง"อายุ 23 ค้นพบอิสระภาพจากการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนต่อไหน ปลดพันธนาการจากความคิดที่จะต้องเสียเวลาเดินทางหลายชั่วโมงในแต่ละวัน"ทำอะไรครับ อยากทำบ้าง 🙂
ตอนนั้นผมทำงานเพลงพวก Ringtone กับเขียนหนังสือน่ะครับ รายได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ต้องเดินทาง + มีเวลาศึกษาเรื่องที่สนใจด้าน music tech ก็ถือว่าคุ้มครับ
รบกวนคุณ Yord Ja แชร์โลกที่ไม่มีวันเหมือนเดิมมาหน่อยนะครับ ผมว่ามันต้องน่าสนใจแน่ 😀
โลกที่ไม่เหมือนเดิมต้ังแต่รู้ว่าเกย์ไม่ได้น่ากลัวกว่าที่คิด :Pปล. คุณ Phz 27 เองเหรอครับ โอว………..ปล.2 ไอเดีย blog นี้เจ๋งๆ ถ้าคืนนี้เคลียร์งานเร็วเล่นบ้างดีกว่า ^^
ผม 27+1 แล้วครับ หากแต่หน้าตาไปไกลกว่านั้นมาก 😛 ปล.2 จะรออ่านครับ ;D
โลกของเราเปลี่ยนไปหลังจากเจอคำว่า "คอมมิวนิสท์" ในคอลัมน์ของนิติภูมิ(ช่วงก่อนเหตุการณ์ 911 จำปีไม่ได้ :p)
แต่ถ้าพูดถึงที่เปลี่ยนจนเป็นแบบทุกวันนี้คงเป็นตอนเรียนปี1 เปลี่ยนไปแบบ no return ด้วย ^^
ตอนปี 1 คุณดาวไปเจออะไรมาครับ 😀 http://post.ly/5SGZ
ขอตอบด้วย Post นี้ละกันครับhttp://wit.posterous.com/4227297
ของผมยังมีอีกอย่างคือ 24-25 ได้เปิดเว็บของตัวเองครั้งแรก passionsound.com และจากนั้นก็กลายเป็นอาชีพอีกอย่างหนึ่งของผมเลย http://post.ly/5SGZ
มาส่งการบ้านครับ ^^ : โลกที่ไม่มีวันเหมือนเดิม | mash http://ow.ly/qd34
เล่นใส่อายุกันขนาดนี้ก็เขินแยะซิครับ ขอแชร์แบบนี้แล้วกันป.5 : คุณพ่อพาไปเรียนอิเลคโทน จากนั้นชีวิตก็เปลี่ยน จะตามตัวง่ายมาก ไม่บ้านก็โรงเรียนดนตรี เรื่องราวในชีวิตเริ่มมีดนตรีมาเกี่ยวข้องม.ปลาย : มีโอกาสได้ไปต่างประเทศเพราะดนตรี เป็นการเปิดโลกทัศน์อย่างมากปริญญาตรี : ได้รู้จักคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มจาก DOS 6 ตามด้วย CU Word เพื่อพิมพ์เอกสารขอสปอนเซอร์ช่วงที่เรียน ได้รู้จัก cakewalk 3 การทำกิจกรรม ชมรมดนรี ช่วงฝึกงาน Format Computer เป็น window 98 ทำให้สนใจ computer มากขึ้นและไม่ยากอย่างที่คิด จบใหม่ๆมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เนต เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะเป็นอาชีพใช้เลี้ยงดูชีวิตปีที่ 2 ของการทำงานไปดูรุ่นพี่ทำงานเพลงและโฆษณาในห้องบันทึกเสียงระดับตำนานของเมืองไทย หลายห้อง ทำให้โลกของการฟังเสียงดนตรีเปลี่ยน ไปนับแต่นั้นเช่นกัน ทำให้ต้องไปหาซื้อทั้ง Power Amp และลำโพง แบกขึ้น Taxi (เป็นไอ้บ้าหอบฟางคนเดียว) โดยที่ยังไม่มี CD Player เลยต่อจาก soundabout เครื่องเสียงก็เลยต้องเล่นแยกชิ้น เครื่องเสียงบนรถก็ต้องเลือกมากขึ้น หากแถมติดมากับรถต้องหาเรื่องเปลี่ยนปริญญาโท ทำให้รู้จัก "The 7 Habits of Highly Effective People" ซึ่งเป็น core concept ของหลักสูตร (แนะนำให้อ่าน) ได้เปิดโลกความคิด และกลับเป็นเด็กอีกครั้ง4 ปีที่ผ่านมาเข้าใจว่า การที่ทำงานที่เรารักหรือชอบ อาจไม่ได้ผลตอบแทนรวดเร็วและมากเท่ากับการทำงานเพื่อคนที่เรารักไม่กี่เดือนมานี้รู้จัก passionsound, polypink, sonarboy ทำให้รู้จัก social network, web 2.0 และเกิดแรงเหวี่ยงไปกับการสร้าง blog ของตัวเอง (ไม่ได้เขียนเอาใจแต่ชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ ต้องหลบๆซ่อนๆเล่นในเวลางาน แอบภรรยามาเล่นตอนเช้ามืด) เปลี่ยนโลกใบใหม่ของผม ที่ไม่มีวันเหมือนเดิมด้วย
@yordJa โห ถึงต้องแอบเลยหรือครับ 😛 "The 7 Habits" ผมดองไว้เป็น Audio Book แล้วจะรีบใส่ ipod ฟังเลยครับ 😀
แบบนี้ต้องเพิ่ม ซีรีย์ใหม่ "หนังสือที่เปลี่ยนโลก" ซะแล้วล่ะ 😀
เอ้ย…จริง นึกๆไป ทรรศนะคติหลายๆอย่างเปลี่ยนไปเพราะการอ่าน เหมือนกันนะครับเนี่ย
@adct2luv เห็นด้วยครับ 😀 แต่หนังสือมักจะเป็นน้ำซึมบ่อทราย ถ้าไม่ใช่แนวเปลี่ยนโลกทัศน์น่ะ 😀
@yordja ชอบอันนี้จังครับ "4 ปีที่ผ่านมาเข้าใจว่า การที่ทำงานที่เรารักหรือชอบ อาจไม่ได้ผลตอบแทนรวดเร็วและมากเท่ากับการทำงานเพื่อคนที่เรารัก" ว่าแต่ถ้าคุณ Yordja รู้จัก Cakewalk3 ตอนเรียน ป.ตรี แปลว่าผมคงต้องเรียกว่า "พี่ YordJa" แล้วสิครับ 🙂
อิอิ ขอ no comment เรื่องอายุครับ เพราะตั้งแต่เล่น social network มาเข้าใจผิดหลายครั้งแล้ว "เดา" ไม่ถูก เลยไม่เดาดีกว่า 😛