สิงคโปร์ คือแผ่นดินเล็กๆ ใต้สุดของแหลมมาลายู มีคนอยู่มานานมากนับพันปี ตั้งแต่สมัยศรีวิชัย
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ คือตอนที่อังกฤษ พยายามหาจุดยุทธศาสตร์ ที่เรือผ่านสะดวก ทำท่าซ่อมเรือได้ เพราะแถวนี้มันโดนดัตซ์คุม อังกฤษจะส่งเรือไปค้าขายกับจีน โดนดัตซ์กินค่าต๋งหนักมาก ในระยะยาวจะแข่งขันไม่ได้
พวกเขาพยายามอยู่นานในการหาแหล่งที่เหมาะสม
หวยมาออกที่สิงหปุระ เกาะที่ตอนนั้นประชากรอยู่กันหลักพันเศษ เรื่องนี้มีการเมืองเล็กๆ คืออังกฤษใช้แรงในการนำสุลต่านที่ลี้ภัยไปแล้วกลับมาใหม่ และพวกดัตซ์ก็คาดไม่ถึง ผลคือเป็นยุทธศาสตร์ที่ได้ผล กลายเป็นเมืองท่าของบริติช ประชากรเพิ่มจากหลักพันไปถึง 8 หมื่นใน 30 ปีแรก ที่เพิ่มมาใหม่เป็นคนจีนเกินครึ่ง
ช่วง WWII ญี่ปุ่นยึดครอง เปลี่ยนชื่อเมืองและนำระบบการศึกษาแบบญี่ปุ่นมาใช้ แผนการณ์ใหญ่คือจะทำรถไฟความเร็วสูงวิ่งจากโตเกียวผ่านจีน ผ่านไทย ลงใต้ถึงสิงคโปร์ด้วยซ้ำ แต่งานนี้อังกฤษเสียหน้าอย่างรุนแรง กำลังพล 60,000 แพ้หมดรูป และทำให้คนท้องถิ่นหลายคนพบว่า ถึงเวลาจริงๆ แล้ว พวกบริติชที่โก้หนักหนา ที่เป็นชนชั้นปกครองพวกเขา ท่าเหลวขนาดไหน พวกเขาหนีก่อนเพื่อน
จบ WWII ไม่นาน มันมีกระแสต้านอาณานิคมทั่วโลก สิงคโปร์ตั้งใจจะใช้ Identity แบบมาเลย์ มาประกาศไปพร้อมกัน ตั้งเป็นประเทศมาลายา ซึ่งก็ทำสำเร็จ แต่… เพราะสิงคโปร์ต่างจากมาเลย์เกินไป จากความที่มีหลายชาติพันธ์ุ ขณะที่มาเลย์เอง เน้นความเป็นคนท้องถิ่นหรือภูมิบุตร
สิงคโปร์โดนเตะออกมา ก็เท่ากับถูกบังคับให้ตั้งเป็นประเทศใหม่ ที่น้ำจืดต้องสั่งเข้ามา (คนไทยที่ชอบไล่คนอื่นไปนอกประเทศ เรียนรู้ได้ว่า เคยมีการไล่เกิดขึ้นและทำได้จริง)
หลังจากโดนเตะออก ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ผู้นำประเทศเขาพัฒนาขนานใหญ่ คนไม่มีบ้าน ทำระบบบ้านเอื้ออาทร คนสิงคโปร์ต้องมีบ้านอยู่ ถ้าไม่มีบ้านอยู่จะเรียกที่นี่ว่าบ้านได้อย่างไร
คนต่างชาติพันธุ์ทะเลาะกัน? เขาจัดการด้วยความเฮียบ ช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามเย็น มีปัญหาคอมมิวนิสต์ตั้งแต่จีน เวียตนาม ไทย มาเลย์ เขาจัดการเด็ดขาด แต่อันนี้ไทยทำได้โหดกว่า
แม่น้ำสกปรก ทำให้มันสะอาด มีแม่น้ำแค่ 2 สาย ถ้าสกปรกแล้วคนจะอยู่ยังไง
เมืองร้อนใช่ไหม 1. ปลูกต้นไม้เต็มเมือง 2. อาคารสำนักงาน ต้องมีระบบปรับอากาศ อันหลังนี้ทำให้โลกร้อนขึ้นชัว แต่การทำงานแบบร้อนๆ งานก็ไม่เดินแน่นอน แต่ปลูกต้นไม้เต็มเมือง มันทำให้เมืองน่าอยู่มากจริงๆ
คนไม่เก่งใช่ไหม ปฏิรูประบบรัฐ และการศึกษา เอาคนเก่งๆ เป็นพนักงานรัฐ สร้างทักษะที่จำเป็นให้พวกเขา จ่ายค่าตอบแทนชั้นดีมาก เพื่อดึงดูดให้คนมาทำงานเพื่อสาธารณะ และห้ามคอรัปชั่น โทษร้ายแรงมาก
หากินกับท่าเรือ อู่ซ่อมเรือใช่ไหม ทำให้ท่าเรือดีที่สุด ไม่มีใครมาแข่งได้อีก
ต่อยอดจากท่าเรือก็ทำสนามบิน โดยใช้หลักว่า สนามบินต้องมาที่ 1 ไม่มีประโยชน์ที่จะได้แค่ที่ 5-6 เพราะโลกจะไม่จำ และคนจะไม่มา ถ้าทำได้แค่นั้น
ไม่มีสายการบินใช่ไหม จะมีก็ได้นะ แต่ต้องทำกำไร ผมลองนั่งสิงคโปร์แอร์ไลน์ Business Class หนึ่งรอบ เข้าใจทันทีว่าทำไมสายการบินเขาอันดับหนึ่ง อร่อยยันอาหารที่เลาจน์ ไปจนถึงการออกแบบที่นั่งที่คิดมาดีมาก
เมืองเล็กๆ สินค้าผ่านเยอะใช่ไหม ก็ทำเป็นเมืองปลอดภาษี ใครผ่านมาซื้อของได้ภาษีคืนหมด
ผลคือนักท่องเที่ยวต่อขนาดของเกาะ สูงมาก ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างไทย มาเลเซีย เอาพื้นที่มาคิดนักท่องเที่ยวนี่ชนะขาดเลย
หลังจากทำทุกอย่างให้ประชากรบนเกาะเล็กๆ ได้คุณภาพชีวิตเทียบเท่าประเทศโลกที่ 1 ได้
ถ้าใครไม่ชอบอยู่ที่นี่เพราะมันเล็กและแพง คนสิงคโปร์ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลก ไม่ต้องเสียเวลายื่นวีซ่า (นอกจากอยู่ยาว) รายได้ คุณภาพคน เขาทำได้
ถ้าถามว่า คนไทยเรียนรู้อะไรจากสิงคโปร์ได้บ้าง?
ผมต้องตอบตามตรงว่า เรียนรู้ได้ทุกอย่าง ประเทศอายุ 50 ปี ที่ประวัติเก่าแก่มีไม่มาก ประเทศที่คนมีชาติพันธ์ุหลากหลาย ก็ใช้มันเป็น Identity ใหม่ ประเทศที่เด็กคนหนึ่งเกิดมา คุณคาดหวังได้ว่า เขาจะได้การศึกษาระดับโลก ไม่อายใคร พูดได้อย่างน้อย 3 ภาษา
แต่สิ่งสำคัญคือในมุมมองระดับรัฐ มองเห็นประชาชนเป็นคน เป็นทรัพยากรสำคัญที่จะช่วยกันพัฒนาสังคมให้ไปไกลๆ
ไม่ใช่ด้านหนึ่งมองเห็นประชาชนเป็นภาระ และด้านหนึ่งก็สูบเอาทรัพยากรมนุษย์ไปใช้หาประโยชน์ให้พวกตัวเองเป็นหลัก
และกลุ่มคนชั้นนำ หรือแม้แต่ชนชั้นกลางในไทย ไม่มีทางสนับสนุนให้เห็นคนเท่ากัน เพราะถ้าไม่มีคนโง่ จน เจ็บ ใครเล่าจะเป็นฐานให้เขาเหยียบ
และสังคมไหน ไม่เห็นคนเป็นคน เขาจะไม่เห็นเด็กๆ เป็นอนาคต สังคมนั้นไม่มีอนาคต
ภาพ: Jewel Changi แหล่งช้อปปิ้งใหม่ ติดสนามบิน copyright: phz.groov.asia