ปัญหาสายชาร์จ iPhone ที่หลายคนเจอกันราวกับว่า Apple Inc ได้ตั้งเวลาการทำงานเอาไว้ว่าครบปีเมื่อไร ให้มันพังทันที
ปัญหาความห่วยไม่ได้เกิดจากคุณภาพการผลิตอย่างเดียวแต่เกิดจากความตั้งใจที่จะไม่ยึดปลายสายให้มันนิ่ง เมื่อมันไม่นิ่ง มันถูกบิด ถูกบิดไปนานๆ มันจึงขาดได้ครับ (ภาพบน ถ่ายจากร้านมือถือแห่งหนึ่ง ที่จะเห็นว่าแม้มันจะอยู่นิ่ง ๆ แต่ก็บิดจนเสียรูปทรง และจะขาดในที่สุด)
ปัญหานี้ แท้จริงแล้ว Apple ได้แก้ไว้ตั้งแต่ iPod เครื่องแรกๆ ก่อน iPhone หลายปีแล้วครับ
จากภาพเป็นสายชาร์จ iPod ที่อีกฝั่งคือ FireWire (ดังก่อน USB) สังเกตที่ปลายสายทั้งสองฝั่ง จะมึตัวยึดสายกับหัวปลั๊กเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันบิดครับ
วิธีแก้ปัญหา
ลองหาลวดหรืออะไรมายึดสายกับหัวไว้ไม่ให้มันบิด
Update: ลองหาที่รัดสายมาจับตรงตำแหน่งที่มีโอกาสบิดดูครับ บางทีอาจบิดกลางก็เอามาใช้กับตรงกลางได้ ให้สังเกตสายที่ตัวเองใช้อยู่ว่าบิดตรงจุดไหน อาจยืดอายุการใช้งานไปได้อีกครับ ที่ผมเจอมาคือแม้แต่สายชาร์จ Macbook รุ่นหลังก็มีอาการบิดกลางสายได้เหมือนกัน
ทำไม Apple จึงทำแบบนั้น?
ผมอาจจะตอบแทนไม่ได้ทั้งหมด แต่จากการสังเกตสายชาร์จแบบเก่า อายุ 9 ปีแล้วยังไม่พัง ผมพบว่ามันทำให้ผมไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อสายชาร์จยี่ห้ออื่นๆ
คนที่สายชาร์จพังส่วนใหญ่จะเข็ด และไม่อยากได้ของ Apple อีก ก็มักจะไปเลือกซื้อจากผู้ผลิตอื่น ที่พวกเขาต้องจ่ายค่า Loyalty Fee ให้ Apple
หาก Apple ทำสายชาร์จไม่พัง พวกเขาก็ขายไม่ได้ ขายไม่ได้ก็จะไม่ผลิต ลำพังค่า Loyalty Fee อาจไม่เท่าความที่พวกเขาอยากให้ผู้คนมองว่า มีผู้ผลิตสายชาร์จและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ จำนวนมากครับ
สรุปคือได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง แค่ทำสายชาร์จห่วย ๆ ให้พังเร็วขึ้น ผู้คนจะเปลี่ยนมันราวกับแปรงสีฟัน
