เมื่อปี 2011 ผมได้รับการติดต่อให้ทำ Video Display ให้ร้านอาหารเชน 2 ร้าน ในตอนนั้นส่งมอบงานเป็นไฟล์วิดีโอแล้วตอนติดตั้ง จะใช้ USB Drive ต่อเข้ากลับ TV แล้วเปิดเล่นเอา ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา 2-3 นาทีต่อเครื่อง และต้องทำทุกวัน ขั้นตอนแบบนี้ถ้าเจอแบบเยอะ ๆ เช่นใน Museum นี่คงเป็นปัญหาพอดู
ถ้าเป็นวันนี้ผมใช้ Raspberry Pi Zero ใส่ไฟล์วิดีโอใน SD Card แค่เสียบ USB Power ต่อ HDMI เป็นอันจบครับ และปล่อยให้มันเล่นไปทุกวันอัตโนมัติ แค่เปิดทีวีและเสียบปลั๊ก เวลาต้องการเปลี่ยนวิดีโอ ใช้การนำไปแทนที่เลยง่ายที่สุด คือให้พนักงานนำ Pi Zero ไปเปลี่ยนแทนตัวเดิม เพราะถอดประกอบง่าย โดยให้ Studio หรือทางฝั่งผมเป็นผู้่เตรียมให้
กระบวนการทำโดยสรุป
- ติดตั้ง Raspbian ลงใน SD Card และทำการตั้งค่าให้สามารถ SSH เข้าทาง USB เพื่อให้เราทำทุกอย่างโดยไม่ต้องต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเข้า Pi Zero เลย
- ใส่ SD Card เข้า Pi Zero ต่อ USB Power และต่อ USB จากคอมพิวเตอร์
- SSH (ควบคุมคอมอีกเครื่องผ่านคำสั่ง) เพื่อโยนไฟล์วิดีโอลงไป และตั้งค่าบอกเครื่่องว่าทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ให้เล่นไฟล์วิดีโอนี้แบบต่อเนื่องและเล่นไปไม่ต้องหยุด
- ใส่เคสให้สวยงาม นำไปต่อจอใช้งานจริง
เราสามารถใช้ Pi Zero ในการทำวิดีโอให้ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ ทำ Digital Signage หรือทำ Touch Display สำหรับค้นหาข้อมูลได้ด้วย
ความน่าทึ่งคือตอนแรก ผมไม่เชื่อว่าตัว Pi Zero เล็กกว่าฝ่ามือ จะสามารถเล่นไฟล์วิดีโอ Full HD ขนาด 1 GB กว่า ๆ ได้ แต่มันทำได้ดีมาก มาคิดดูอีกทีพวก Chromecast อันก็แรกประมาณนี้ เล็กกว่านี้อีก แต่ก็ทำ Streaming ได้ไม่มีสะดุด Pi Zero อาจดูน่าทึ่งตอนแรกที่สัมผัส เพราะเราจะมีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่หลังจากที่เราค้นพบพลังของมันแล้ว เราจะอยากทำอะไรจากจุดนี้อีกมาก
ผมเคยทำงานให้ Museum โดยโปรแกรมพวก Terminal สำหรับค้นหาข้อมูล พวกนี้เคยใช้คอมพิวเตอร์ขนาด Desktop PC แต่ตอนนี้ หากเราใช้ Raspberry Pi (ถ้าอยากแรงก็ใช้รุ่นล่าสุด ไม่ใช่ Zero) เราจะสามารถทำอะไรได้อีกมากครับ คอมพิวเตอร์จะเป็นขนาดจิ๋ว ๆ ซ่อนไว่้ใน Stand ไม่ต้องคอยหาที่ซ่อนให้วุ่นวายเหมือนเก่า (จริง ๆ เราจะเห็นการใช้ iPad ในลักษณะประมาณนี้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ผลลัพธ์เป็นแบบไหน)
Enjoy making stuffs.