ปัญหาของ TV
TV หรือโทรทัศน์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า (Application) ที่เราพบเห็นได้ทุกที่ แต่ตัวมันเองเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ออกแบบมาจากผู้ผลิตหลายกลุ่ม ตั้งแต่ตัว เครื่องทีวี เอง ระบบการออกอากาศ ไปจนถึง ผู้ผลิตเนื้อหา ให้มัน ซึ่งถ้าสองส่วนแรกออกแบบมาอย่างชวนสับสนแล้ว มันอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราจะเข้าไม่ถึงส่วนที่ 3 คือ เนื้อหา
ส่วนแรกที่ผู้ใช้ทุกคนต้องเจอคือการควบคุมทีวี ซึ่งแต่ละผู้ผลิตมีความต่างกัน อย่างไรก็ตามส่วนนี้อาจใช้ความเคยชินบางอย่างที่พอคุ้นเคยแล้วไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไร เช่นการจัดการกับ Remote Controller การที่เรารู้ว่าจะเปลี่ยนช่องเป็นสัญญาณ HDMI หรือ AV หรือ Components ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่เป็นปัญหาต่อผู้ใช้ที่มีประสบการณ์เท่าไร
จุดเริ่มของปัญหาคือส่วนที่สอง ที่มีความหลากหลายมากกว่ามาก กรณีที่เป็นเสาอากาศแบบโบราณ เราต้องทำการจูนช่องด้วยตัวเอง กรณีเป็น Topbox เช่นจากบริษัทเคเบิ้ล หรือจานดาวเทียม เราต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับมันต่างหากจากทีวี ซึ่งถ้าผู้ใช้เคยชินกับระบบนึง พามาเจอกับอีกระบบนึงก็ถือว่าต้องมาเรียนรู้กันใหม่ เช่นจากเคเบิ้ลท้องถิ่น มาเป็นจานรับสัญญาณดาวเทียม
ซึ่งถ้าหากทั้งสองส่วนเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราจะเข้าถึงเนื้อหาของทีวีที่เราต้องการไม่ได้ ก็หมายความว่ามันคือกล่องที่ไร้ประโยชน์
ยกตัวอย่างง่ายๆ เราเดินทางไปต่างจังหวัด ถ้าเป็นโรงแรมที่ซีเรียสกับเรื่องทีวี พวกเขาจะทำระบบกดช่องง่ายๆ ให้ เช่นช่อง BBC กด 1 ช่อง ESPN กด 2 เป็นต้น อันนี้คือการควบคุมประสบการณ์ใช้งานแบบเบ็ดเสร็จ (Total Experience Control) ที่ดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกโรงแรมจะเป็นแบบนี้
กรณีโรงแรมเป็นสมาชิกเคเบิ้ลแบบเถื่อน ก็จะคล้ายๆ กับตัวอย่างบน เพียงแต่จะไม่บอกช่องให้ เราจำเป็นต้องสุ่มช่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอช่องที่เราต้องการ
หรือโรงแรมฮิปๆ แต่ราคาถูก มักใช้จานดาวเทียมเพื่อแก้ปัญหาลิขสิทธิ์เนื้อหา ซึ่งกรณีที่เราไม่เข้าใจว่ากล่อง Topbox ของจานดาวเทียมมันต่อกับทีวียังไง ก็จบครับ
ช่วงหนีน้ำท่วม ผู้เขียนได้มีโอกาศเข้าพักในหลายๆ โรงแรม และบางครั้งเราอยากดูทีวีช่องฟรีเพื่อติดตามข่าวบ้าง ก็พบปัญหาเหล่านี้ เลยทำให้เข้าใจว่าทำไมทั้ง Google หรือ Apple ต่างก็มีแผนจะเปลี่ยนโฉมวงการทีวีใหม่ ซึ่งก็คงไม่พ้นองค์ประกอบสามอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
องค์ประกอบสามอย่าง เครื่องแสดงภาพ เครื่องรับสัญญาณ และการส่งเนื้อหา
เครื่องแสดงภาพในที่นี้หมายถึงจอภาพนั่นเอง ปัจจุบันทั้ง Google และ Apple ต่างก็ยังไม่ได้ทำส่วนนี้เป็นของตัวเอง กรณี Apple อาจจำหน่ายจอ LED ในแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องแสดงภาพทีวีได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่เริ่มมีผลิตภัณฑ์ Topbox หรือเครื่องรับสัญญาณที่เป็นหัวใจสำคัญของทีวีในวันนี้มาก่อนแล้ว ซึ่งมันอาจฝังตัวอยู่กับจอภาพ หรือเป็นกล่องแยกต่างหาก
แต่ส่วนที่จะเปลี่ยนโฉมวงการทีวีได้คือการกระจาย Content คือทุกวันนี้เราจะมี Content สองประเภทบนทีวี คือแบบ Program ปกติ และ Live Program (ถ่ายทอดสด)
ทุกวันนี้ ผู้ผลิต Content ส่วนใหญ่ต่างก็มีช่องทางการเผยแพร่่ผ่าน Internet / Webbrowser / Podcast อยู่แล้ว ที่ยังขาดคือ Content ประเภท Live ซึ่งพอมีบ้างในบางโอกาส
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาเรายังไม่มี Platform หลักที่รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน
Apple TV ในปัจจุบันทำได้เพียง Content ที่ไม่ได้ถ่ายทอดสด เพียงแค่พวกเขาสามารถสร้างระบบที่ผู้ผลิตเนื้อหาแบบถ่ายทอดสดเข้ามาอยู่ในระบบที่กระจายภาพผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ก็เป็นอันว่าเกมเปลี่ยนครับ ผู้ชมจ่ายค่าดู Live จะรายครั้ง รายเดือน ฯลฯ ผู้ผลิตเนื้อหาไม่ต้องทำระบบกระจายสัญญาณเอง (Broadcasting Platform)
ซึ่งถ้าพิจารณาองค์ประกอบทั้งสามอย่างแล้ว ทั้งหมดไม่ใช่ของใหม่ทั้งหมด (ยกเว้นการถ่ายทอดสด) เคยมีมาเกือบ 20 ปีได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาระบบแบบนี้กระจาย (Fragmentation) ของไทยก็แบบนึง ของฝรั่งก็แบบนึง ที่สำคัญราคาต่อคุณภาพยังแพง เช่น 15 ปีที่แล้ว ผู้เขียนสามารถซื้อหนังแบบดูครั้งเดียว คุณภาพระดับ SD (ทีวีทั่วไป) ในราคา 150 บาทจากผู้ให้บริการเคเบิ้ลท้องถิ่น ซึ่งแพงกวาราคาชมในโรงภาพยนต์ที่ดีที่สุดในวันนั้นเสียอีก
จะเป็นอย่างไร หากเรามี TV ที่แม้จะผลิตโดยผู้ผลิตต่างกัน แต่เปิดมาแล้วเจอหน้าตาคล้ายๆ กัน มีเมนูช่องสำคัญที่เข้าดูได้ง่ายเพียงคลิกเดียว อยากดูภาพยนต์เรื่องใหม่ล่าสุดหรือดูถ่ายทอดสดฟุตบอลก็เลือกดูได้ทันทีโดยการจ่ายเงินที่สมเหตุผลตามค่าครองชีพ และที่ไปไกลเกินกว่าอดีตที่ผ่านมาคือสามารถเลือกซื้อเกมคอมพิวเตอร์มาเล่นได้ด้วย ลืม Console แบบเก่าๆ ไปได้เลย เพราะตอนนี้เราสามารถเล่นเกมและดูหนัง ดูข่าวได้ผ่านอุปกรณ์เครื่องเดียว
จะเป็นอย่างไร หากเราต้องเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง หลังจาก Checkin ในโรงแรมแล้ว เปิดทีวีในห้องพบว่ามันมีช่องสำคัญที่เราชอบดูรอไว้เลย (Personalization) ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลเกินกว่าจินตนาการ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในเร็ววัน ผ่านวิธีการควบคุมประสบการณ์ดูทีวีโดยเบ็ดเสร็จของบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย ผู้ชมได้ประโยชน์ คนทำเนื้อหาได้ประโยชน์สามารถทำกำไรได้บ้าง และเจ้าของ Platform นั้นจะรวยมหาศาล