ที่ NZ เจอเดลต้า เลยสั่ง lockdown ทันที 3 วัน เมืองที่เจอ 7 วัน

ตั้งแต่วันอังคาร พอดีเราได้ข่าวจากไทยตลอด เลยขอทดลอง lockdown  เป็นเพื่อน
ปรากฏว่ามันระบาดข้ามเมือง เลยปิดเพิ่มอีก 4 วัน

แต่ในระหว่างนี้รัฐช่วยทันที ใครทำงาน full time แล้วต้องหยุด จ่ายให้สัปดาห์ละ 600
nzd พอดีมันกินข้ามสัปดาห์ เลยจ่ายให้ 1200 nzd ไม่ถามเยอะ เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว

ส่วนธุรกิจ ถ้ายอดขายตกแค่ 30% จะได้รับชดเชย 4 เท่าของยอดขายเฉลี่ย 1 สัปดาห์

ผมย้ายมาที่นี่ ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ปีแรก ไม่ได้เงินช่วยอะไร เพราะไม่ได้ทำงาน

Q: แอร์ไม่เย็น ทำไมไม่ใช้รีโมท?

A: กูมีรีโมท รีโมทของกูคือคน คนมันต้องรู้ว่ากูอยู่ประเทศหนาว อากาศมันเท่าไร
มึงต้องเข้าใจเรื่องนี้ก่อน แล้วมาปรับอากาศให้กู พวกบอกไม่มีรีโมท
มึงคือคนธรรมดาบ้านๆ

Q：เราอยู่ประเทศร้อน มันไม่มีทางที่จะทำอากาศให้เหมือนมิวนิค

A：นั่นไม่ใช่ปัญหาของกู และถ้ามันเป็นปัญหาของกูเมื่อไร
ต้องมีใครสักคนเดือดร้อนแต่ไม่ใช่กู

Q: โทษหนักไปไหม แค่แอร์ไม่เย็น

A: นั่นไม่ใช่ปัญหาของกู กูคือระบบปิศาจ สร้างโดยปิศาจ สนับสนุนโดยพวกขลาดเขลา

Q: ถามคนเขียนบ้าง แล้วรู้ไดัไงว่าจริง?

A: คนห

คนรุ่น Boomer, X,Y ใช้เงินกระดาษส่งให้กัน นักธุรกิจก็ยังใช้กระดาษเขียนเช็ค

ใครทันสมัยหน่อย ยอดเยอะหน่อน โอนผ่านธนาคาร พวกยอดเยอะๆ ต้องโอนผ่านเครือข่าย
Bathnet ค่าโอน 150

ต่อมาระบบธนาคารบนแอพมือถือยุคแรก โอนต่างธนาคาร 35 บาท แค่ 35 บาท
หลายคนไม่อยากจ่าย เพราะสำหรับพวกเขาคือข้าว 1 มื้อ

แต่พอมายุค Gen Z พวกเขาโตมาเจอ promptpay พอดี และพวกธนาคารก็ปรับให้โอนฟรีแล้ว

ที่เรียกว่าโอนเงินให้กัน แท้จริงมันคือ message service
ที่ใช้บอกว่าใครจะส่งเงินให้ใครเท่าไร ที่เหลือพวก bank ก็ไปหักกันเอง

จะโอนเงิน

“ใครมีข้อมูลหรืองานวิจัยที่อธิบายเชิงจิตวิทยาสังคมได้บ้างว่า ทำไมคนรุ่น Baby
Boomer ถึงไม่ค่อยสำนึกเรื่อง “ลิขสิทธิ์” และ “ทรัพย์สินทางปัญญา”
ซึ่งต่างจากคนรุ่น Gen Z โดยสิ้นเชิงมากๆๆๆๆ”

เพื่อนผมตั้งคำถามข้างต้น

จาก Boomer ถึง Gen Z มันมี Gen X-Y ซึ่งคนรุ่นนี้ ยังโหลด MP3 จาก Napster, Kazaa,
BitTorrent ใช้โปรแกรมเถื่อนจากพันทิพ

จนกระทั่งการมาของ Appstore รุ่นแรกๆ ยังลงแอพตู้ ผ่านเวลาไป
วิธีการคิดมันปรับตามการเข้าถึง

พอคนมีบัตรเครดิต เข้าถึงการซื้อของ เครื่องมือการเงิน
พอคนรู้สึกว่าซื้อแอพของจ

หน้าตาเหมือนเครื่องคิดเลข แต่ไม่ใช่เครื่องคิดเลข PO-32 มีอะไรดีกว่าที่คิด
ลองไปชมกันเลย! Teenage Engineering PO-32 Tonic

ก่อนที่ต้าชิง(大清)จะล่มสลาย คนพวกนี้ก็ไม่ได้สนใจความทุกข์ยากของประชาชน
เพราะขังตัวเองอยู่ในเมืองต้องห้าม Forbidden City(紫禁城)

ข้อมูลที่รายงานขึ้นไปก็มักผ่านหลายต่อ พอถึงปลายทางแล้ว ไม่น่าจะเหลือความจริง
เหลือแต่ข้อมูลปลอมไว้หลอกตัวเองว่ายังได้อยู่
ส่วนพวกขุนนางอำมาตย์ก็กินตามน้ำหาผลประโยชน์กันไป เพราะต่างคนต่างเอาตัวรอด
ต่างกอบโกยให้ได้มากที่สุด

ไพร่จีนที่ดิ้นรนหาทางรอด ถ้าไปถึงจีนใต้ริมทะเล หรืออยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว
ก็มักจะเข้ากลุ่ม “โยกย้ายฯ” หาทางหนีกันมานานแล้ว
นานจนลูกหลานจีนสลิ่มไทยในศตวรรษท

ถ้าเราย้อนกลับไปดูเหรียญรางวัลที่ไทยได้รับในกีฬาโอลิมปิก
คุณจะพบว่ามันสัมพันธ์กับการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างแยกไม่ออก

ช่วงปลายยุค 70s ถึงต้น 90s ไทยเรายังได้แค่เหรียญทองแดง-เงิน จากกีฬา Boxing

ช่วงเวลานั้นได้แค่เหรียญทองแดง กลับมาเป็นโอลิมปิกฮีโร่ คนไทยเก่งกีฬามวย
เรารู้กันดีว่ามาจากฐาน Talent Pool หรือมีนักมวยอาชีพในระบบเยอะ มาจากชนชั้นล่าง
ชนชั้นที่เด็กอายุ 8-9 ขวบต้องออกไปต่อยมวยหาเงิน เพื่อให้ได้ 50-100
บาทกลับมาให้ครอบครัว

จุดพีคคือตอนที่สมรักษ์ คำสิงห์ได้เหรียญทองแรกในที่โอลิมปิกที

ขำดี เห็น comment ข่าวน้องเทนนิสให้สัมภาษณ์ขอบคุณนายก…สมาคม ว่า

“ให้แยกกีฬาออกจากการเมือง”

คือการที่คุณภูมิใจว่านักกีฬาไทยได้เหรียญทองนี่ก็การเมืองแล้ว

การที่นักกีฬาจากทั่วโลกไปแข่งกีฬาที่ประเทศเจ้าภาพนี่ การเมืองเต็มไปหมด
ตั้งแต่ชุด การแสดงออก การชูป้าย เลือกที่จะชูอะไร หรือพูดอะไร

ส่วนคอมเมนต์ที่บอกว่า ให้แยกกีฬาออกจากการเมือง นี่ก็ถือเป็นการเมืองอย่างหนึ่ง

เป็นการเมืองที่เชื่อง ที่อยากแยกความบริสุทธิ์ออกมาเป็นเอกเทศ

ขนาดผมพาลูกสาวไปเตะบอล ก็ยังเป็นการเมือง การเมืองที่มีสนามเล่นใกล้บ้านเ

พอดีเห็นอยู่ในชั้นหนังสือของ Tony เลยคิดว่าเอามาแนะนำสำหรับผู้สนใจการเมือง
โดยเฉพาะเวลาแบบนี้

ทำไมชาติล่มจม?
ไม่สามารถอธิบายด้วยคำตอบอย่างสั้น เช่น “ก็โง่เองหนิ เลยได้แค่นี้”
(ความโง่เป็นผลปลายทาง)

หนังสือเล่มนี้นำเสนอ Grand Theory อธิบายให้กระชับว่าสังคมหนึ่ง ๆ
จะรุ่งหรือจะร่วง ให้ดูความเป็นสถาบัน (Institutions) ของสังคมนั้นว่าทำงานอย่างไร

ทำงานแบบ Inclusive หรือมีลักษณะ เหมารวมทุกอย่างทุกคนไว้

หรือเป็นแบบ Extractive ที่พยายามกีดกันคนอื่น เหลือแต่พวกตัวเองในกลุ่มเล็ก

สังคมมนุษย์เดินทางอย่า