แนวทางสงครามยาเสพย์ติดที่รัฐบาลไทยรักไทยนำมาใช้ในสมัยของทักษิณ ชินวัตร อาจให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างประจักษ์ว่ากระแทกสู่ใจกลางปัญหาได้ แต่ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องข้างเคียงมากมาย โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตทั้งทางตรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือทางอ้อมจากการฆ่าตัดตอนกันเอง กว่า 2500 คน เกิดเสียงวิพากษ์อย่างหนัก
หากการฆ่ากันเป็นเรื่องที่ยากต่อการยอมรับได้ ลองมาดูแนวทางที่ละมุนละไมที่สุด และกระแทกใจกลางปัญหาสำคัญเหมือนกัน นั่นคือ การทำลายระบบนิเวศทางเศรษฐกิจของยาเสพย์ติดด้วยการแจกยาฟรีโดยรัฐเอง
แนวคิดนี้ ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะมีการดำเนินการเรื่องนี้ในหลายๆ ประเทศนานแล้ว1 (ขอบคุณทวีตของคุณ @Phongsan M.) แนวทางคร่าวๆ เป็นดังนี้ครับ
- รัฐตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมา ทำหน้าที่จัดหาและผลิตยาตามกฏหมาย มีการระบุต้นทุนทุกอย่างตั้งแต่ตัวยาไปจนถึงการดำเนินการ ทำเหมือนดำเนินธุรกิจโดยมีรายได้มาจากรัฐ
- การแจกยา ก็จะใช้วิธีการตั้งสาขาของการทำธุรกิจ คือขึ้นตรงกับหน่วยงานนั้น ไม่แจกมั่ว มีการบันทึกรายละเอียดของ Stock-Supply Chain ชัดเจน หรืออาจประสานงานเพื่อแจกผ่านโรงพยาบาลรัฐ
- รัฐจะแจกยาโดยได้ข้อมูลของผู้เสพย์ยา และแจกตาม Dose ของผู้เสพย์ โดยมีแพทย์เป็นที่ปรึกษา ดูแลอย่างใกล้ชิด
- นอกจากแพทย์แล้วยังมีทีมเฉพาะที่ทำงานร่วมกันเช่นจิตแพทย์ นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ฯลฯ เพื่อติดตามปัญหาส่วนตัวของผู้เสพย์จริงๆ ในกรณีที่ติดยาจากปัญหาอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่าแค่การติดยาตามธรรมดา
- แนวทางนี้ คือการแก้ปัญหาระยะยาว อาจตั้งไว้ 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น ตามผลลัพธ์ที่ลงทุนไป และในทุกปีหน่วยงานนั้นจะแจกแจงรายละเอียดต่างทางสถิติ ข้อมูล ฯลฯ สู่ประชาชนด้วย
ฟังดูอาจใกล้เคียงอุดมคติ การปฏิบัติได้จริงมันขึ้นอยู่กับทุนดำเนินการ ระยะสั้น ระยะยาว แต่มันจะลดปัญหายาเสพย์ติด ถึงขั้นหมดไปได้แน่นอน โดยสามัญสำนึก
ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หากมีไอเดียนำเสนอ หรือเห็นแย้งใดๆ ครับ